วิธีใช้เตาหุงต้ม แบบช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า

Last updated: 19 มี.ค. 2565  |  7894 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิธีใช้เตาหุงต้ม แบบช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า

ในวันที่ 1 เมษายน 2565 ราคาก๊าซหุงต้ม LPG กำลังจะเริ่มถูกปรับขึ้นแบบขั้นบันได ในอัตรากิโลกรัมละ 1 บาท 3 ครั้ง โดยราคาก๊าซหุงต้ม LPG จะเพิ่มจากถัง 15 กก. เดือนละ 15 บาท จากถังละ 318 บาท เป็น 333 บาทในเดือนเมษายน 348 บาทในครั้งที่ 2 และจะขึ้นไปถึง 363 บาทภายในปีนี้

ส่วนค่าไฟฟ้าสำหรับเดือน พฤษภาคม-สิงหาคม 2565 จะถูกปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร FT จากเดิมที่ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นเป็น 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงแตะ 4 บาทต่อหน่วยกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งในส่วนของราคาก๊าซหุงต้มและค่า FT ที่ถูกปรับขึ้นนั้นเป็นผลกระทบมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ทำให้ราคาพลังงานในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

ในวันที่ราคาพลังงาน ข้าวของเครื่องใช้ ค่าอาหาร ต่างทะยอยกันถีบตัวสูงขึ้น การทำกับข้าวทานกันเองในบ้านจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้เป็นอย่างมาก วันนี้ Lucky Flame จึงรวบรวมเคล็ดลับง่ายๆ 12 ข้อ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดค่าใช้จ่ายยิ่งขึ้น ในการทำอาหารทานเองด้วยเตาหุงต้ม ไม่ว่าจะเป็น เตาแก๊ส หรือ เตาไฟฟ้า ก็ตาม

วิธีประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายจากการใช้เตาหุงต้ม

1) เลือกใช้เตาหุงต้มที่มีฉลากเบอร์ 5 มั่นใจได้ว่าประหยัดแน่นอน

เดี๋ยวนี้ เตาแก๊สก็มีเบอร์ 5 กันแล้วนะครับ การเลือกใช้เตาแก๊สที่มีเบอร์ 5 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเชิงความร้อน หรือหมายถึงว่าปริมาณแก๊สที่เท่ากัน ได้ความร้อนที่สูงขึ้นนั่นเอง โดยเตาแก๊สแรงดันต่ำที่ใช้กันในครัวเรือน ถ้ามีเบอร์ 5 จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเตาทั่วไปในท้องตลาด 10%-20% ขึ้นไปกันเลยทีเดียว


ขอบคุณภาพจาก eppo.go.th

ในส่วนของเตาไฟฟ้า เช่นเดียวกัน เตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็มีเบอร์ 5 แล้วนะครับ โดยเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีเบอร์ 5 จะให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า 85% ซึ่งกินไฟแค่ชั่วโมงละ 5-7 บาท ที่ไฟแรงสุดเท่านั้นเอง


เตาแก๊ส TS-T202P รายแรกที่ประหยัดค่าไฟที่สุด เบอร์ 5 สามดาว ที่มา http://labelno5.egat.co.th/new58/?p=1456

2) วางแผนการประกอบอาหารเป็นลำดับขั้นตอนก่อนเริ่มใช้เตา

การวางแผนการทำอาหารเป็นลำดับขั้นตอน และการเตรียมส่วนประกอบไว้พร้อมปรุงทันที จะช่วยลดเวลาสูญเปล่า ร่นระยะเวลาในการปรุงอาหารได้เป็นอย่างมาก

รู้หรือไม่ ว่าการลดช่วงเวลาสูญเปล่าขณะทำอาหาร อาจช่วยให้ประหยัดแก๊สได้มากถึงเดือนละ 1/20 ของถัง 15กก. กันเลยทีเดียว

3) นำอาหารแช่แข็งไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาหรือในอุณหภูมิห้องก่อนนำมาประกอบอาหาร

การนำอาหารแช่แข็งออกมาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้คลายความเย็นโดยธรรมชาติก่อนนำมาปรุงอาหาร จะช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงในการทำให้สุกได้ส่วนหนึ่ง

4) ควรใช้ขนาดของภาชนะที่เหมาะสมกับปริมาณอาหารที่ทำ

ไม่ควรภาชนะที่ใหญ่เกินปริมาณอาหาร หรือการตวงน้ำใส่หม้อที่ปริมาณเยอะเกินไป เนื่องจากมีความร้อนส่วนหนึ่งเสียไปกับภาชนะหรือน้ำส่วนที่ไม่ได้ใช้จริง

5) ไม่เปิดเตาทิ้งไว้ระหว่างเตรียมอาหาร

การเปิดเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าทิ้งไว้ โดยที่ไม่ได้ใช้งาน ถือเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น

คำเตือน การเปิดเตาแก๊สทิ้งไว้โดยที่ไม่มีภาชนะคั่นกลาง อาจทำให้เครื่องดูดควันเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้

6) กรณีใช้เตาแก๊ส ควรเลือกขนาดหัวเตาที่เหมาะสมกับภาชนะ

ไม่ควรใช้ภาชนะก้นเล็กกับหัวเตาขนาดใหญ่ หากจำเป็นควรปรับไฟให้พอดีก้นภาชนะ ไม่ล้นก้นภาชนะออกไปลอยๆ เพราะสิ้นเปลืองแก๊สโดยใช่เหตุ และอาจก่อความเสียหายกับเครื่องดูดควันได้


เตาแก๊สแบบฝัง รุ่น LGS-992BT ให้เปลวไฟได้ 3 ชั้น เต็มประสิทธิภาพกับภาชนะทุกขนาด

7) ควรเลือกประเภทหัวเตาแก๊สให้เข้ากับการใช้งาน

ถ้าเน้นการต้ม นึ่ง ตุ๋น การเลือกใช้หัวอินฟาเรดจะประหยัดแก๊สมากกว่าแบบหัวทองเหลืองถึง 40% เลยทีเดียว

8) หมั่นสังเกตเปลวไฟจากเตาแก๊สอยู่ตลอด

ถ้าเปลวไฟเป็นสีน้ำเงินนิ่งๆ หมายถึง ระดับส่วนผสมของแก๊สพอดีกับอากาศ ทำให้เกิดการเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ ให้ความร้อนสูงสุด และไม่มีเขม่าดำติดก้นหม้อให้รำคาญใจอีกด้วย

วิธีแก้ไขเปลวไฟแดง ไฟลอย มีเขม่า

9) ทำความสะอาดหัวเตาแก๊สเป็นประจำ

หากไม่มีการทำความสะอาดหัวเตาแก๊สเป็นระยะๆ อาจก่อให้เกิดปัญหาทางเดินก๊าซอุดตัน การเผาไหม้จะไม่สมบูรณ์ ประสิทธิภาพลดลง เกิดเขม่าและเปลวไฟผิดปกติจนอาจทำให้เตาเสียหายได้

 

10) กรณีใช้เตาไฟฟ้า ควรใช้ภาชนะก้นแบนที่พอดีกับเตาและใช้ภาชนะที่มีเนื้อโลหะรับความร้อนได้ดี

เนื่องจากเตาไฟฟ้าไม่สามารถแผ่ความร้อนผ่านอากาศได้เหมือนเตาแก๊ส แต่เป็นการนำความร้อนผ่านพื้นผิวสัมผัส (เตาเซรามิค) หรือการเหนี่ยวนำให้เกิดความร้อนที่ก้นภาชนะ (เตาแม่เหล็กไฟฟ้า) เราจึงควรเลือกใช้ภาชนะที่ก้นแบน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุดจากพื้นที่ผิวสัมพัสกับเตามากที่สุดนั่นเอง นอกจากนี้วัสดุที่เป็นโลหะจะนำความร้อนได้ดีกว่าภาชนะชนิดอื่นๆ ช่วยลดความร้อนสูญเสียได้เป็นอย่างดี

11) เลือกใช้เตาไฟฟ้าชนิดแม่เหล็กไฟฟ้าหรืออินดักชั่น

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะมองไม่เห็นขดลวดความร้อน ให้ประสิทธิภาพการทำความร้อนที่สูงมากเทียบกับเตาเซรามิค เนื่องจากไม่มีความร้อนสูญเปล่าภายในเตาและหน้ากระจกสูงมากนัก โดยเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเบอร์ 5 จะให้ประสิทธิภาพการทำความร้อนสูงถึง 85% ขึ้นไปเลยทีเดียว ในขณะที่เตาเซรามิคหรือขดลวดความร้อนจะมีประสิทธิภาพได้เพียง 50%-75% เท่านั้นเอง

12) ก่อนประกอบอาหารเสร็จ สามารถปิดสวิตช์เตาไฟฟ้า แล้วใช้ความร้อนที่สะสมอยู่แทนได้

เนื่องจากโลหะนำความร้อนได้ดี ก็สามารถเก็บความร้อนได้ดีด้วยเช่นกัน ดังนั้นภาชนะโลหะที่ใช้ร่วมกับเตาไฟฟ้านั้นจะคงความร้อนต่อไปได้หลังจากปิดเตาแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเราสามารถใช้ประโยชน์จากตรงนี้เพื่อประหยัดพลังงานได้อีกส่วนหนึ่งอีกด้วย

รู้หรือไม่ ลัคกี้เฟลมเรามีสินค้าที่ได้ฉลากเบอร์ 5 ประสิทธิภาพสูงรวมกันมากกว่า 100 รุ่น และเรายังคงพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคน

ลัคกี้เฟลม จุดประกายความสุขทุกครัวเรือน

เตาแก๊ส

เตาไฟฟ้า

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้